Patchwork และ Quilt หมายถึงงานฝีมือที่ใช้ผ้าชิ้นเล็กๆ มาตัดเป็นรูปร่างต่างๆ และเย็บต่อกันให้เกิดเป็นลวดลายใหม่ ในยุโรปจะเรียกว่า Patchwork ในสหรัฐอเมริกา และ ประเทศไทยนิยมเรียกว่า Quilt
Quilt มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน นักประวัติศาสตร์เชื่อว่ามีจุดกำเนิดจากลุ่มแม่น้ำไนล์ ผู้คนในแถบนี้ริเริ่มการเย็บต่อผ้ากันแบบง่ายๆ เพื่อใช้เป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ในบ้าน ต่อมาเมื่อมีการค้าขายกับต่างประเทศ งาน Quilt จึงแพร่หลายไปยังแถบเปอร์เซีย อียิปต์และโรม
ช่วงสงครามครูเสด สงครามระหว่างศาสนาซึ่งยาวนานเกือบ 200 ปี ทหารของทั้ง 2 ฝ่ายต้องสู้รบกันภายใต้สภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มจึงตัดเย็บบุผ้านวมให้หนา ป้องกันการกระแทกจากการสวมใส่เสื้อเกราะ และเพื่อให้ผู้ใส่อุ่นสบาย อีกทั้งเป็นเครื่องแทนใจจากภรรยาที่ตัดเย็บให้เมื่อสามีออกรบ เมื่อสงครามสิ้นสุด ภรรยาของทหารเหล่านั้นได้นำงานตัดเย็บบุผ้านวมมาพัฒนาเพิ่มสีสัน และลวดลาย กลายเป็นทั้งของใช้ในชีวิตประจำวัน และงานศิลปะที่มีคุณค่า
ในยุโรป มีการพัฒนางาน Quilt จากของใช้ในชีวิตประจำวัน มาเป็นงานศิลปะ และของแต่งบ้านที่นิยมใช้กันในสังคมชั้นสูง เล่ากันว่าเทคนิค Applique’ มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในผลงานของตกแต่งบ้านที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่คือ ผ้าห่ม Tristan quilt ตัดเย็บในเกาะซิซิลีราว ปีค.ศ. 1360 เป็นหนึ่งในสองของผ้าห่มที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ V & A เมืองฟลอเรนซ์
รัสเซียเป็นอีกประเทศที่มีผลงาน Quilt ที่เก่าแก่ที่สุดเหลืออยู่ เป็นพรมผ้าลินินที่ค้นพบในถ้ำมองโกเลียและเก็บรักษาไว้ที่ สถาบันวิทยาศาสตร์เซนต์ปีเตอร์ ประเทศรัสเซีย
ในสหรัฐอเมริกา เมื่อชาวยุโรปได้ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน การทำผ้านวมก็เริ่มแพร่หลายในช่วง ศตวรรษที่ 18 – 19 สังคมผู้หญิงนิยมทอผ้าและตัดเย็บผ้าห่มเริ่มต้นจากการใช้ผ้าจากเสื้อผ้าที่เก่าขาด ใช้กระสอบใส่อาหารมาทำเป็นใยบุ ต่อมาจึงได้ผลิตผ้าฝ้ายชึ้นใช้เอง ย้อมสีผ้าด้วยสีธรรมชาติ ส่วนใยบุก็เปลี่ยนมาใช้ผ้าฝ้าย และขนสัตว์จากธรรมชาติ
ในประเทศไทย งาน Quilts เริ่มที่ภาคเหนือโดยเฉพาะชาวไทยภูเขาซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากมิชชั่นนารี
ความหมาย
Patchwork คือการนำผ้าที่ตัดเป็นรูปทรงเรขาคณิตมาเย็บต่อกันเป็นลวดลายใหม่ แพทเทิร์นที่นิยมใช้คือทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ส่วนลายต่อผ้าที่นิยมต่อกันคือ Log cabin, Lemon star
Applique’ คือการตัดผ้าตามจินตนาการมาเย็บ สอย ปะ ลงบนผ้าอีกชิ้น
Quilting คือ การนำผ้า 3 ชิ้นมาวางซ้อนกัน และเย็บให้ติดกันทั้ง 3 ชิ้น การ Quilt ทำให้เกิดลายนูนขึ้นมา สามารถทำได้ด้วยมือและจักรเย็บผ้า ผ้า 3 ชิ้นประกอบด้วย
ชั้นบน Top คือผ้าที่เย็บประกอบเป็นลวดลายต่างๆ
ชั้นกลาง Batting คือใยบุ
ช้นล่าง Backing คือผ้าที่ใช้รองด้านล่างของใย
ในยุโรป มีการพัฒนางาน Quilt จากของใช้ในชีวิตประจำวัน มาเป็นงานศิลปะ และของแต่งบ้านที่นิยมใช้กันในสังคมชั้นสูง เล่ากันว่าเทคนิค Applique’ มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในผลงานของตกแต่งบ้านที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่คือ ผ้าห่ม Tristan quilt ตัดเย็บในเกาะซิซิลีราว ปีค.ศ. 1360 เป็นหนึ่งในสองของผ้าห่มที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ V & A เมืองฟลอเรนซ์
รัสเซียเป็นอีกประเทศที่มีผลงาน Quilt ที่เก่าแก่ที่สุดเหลืออยู่ เป็นพรมผ้าลินินที่ค้นพบในถ้ำมองโกเลียและเก็บรักษาไว้ที่ สถาบันวิทยาศาสตร์เซนต์ปีเตอร์ ประเทศรัสเซีย
ในสหรัฐอเมริกา เมื่อชาวยุโรปได้ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน การทำผ้านวมก็เริ่มแพร่หลายในช่วง ศตวรรษที่ 18 – 19 สังคมผู้หญิงนิยมทอผ้าและตัดเย็บผ้าห่มเริ่มต้นจากการใช้ผ้าจากเสื้อผ้าที่เก่าขาด ใช้กระสอบใส่อาหารมาทำเป็นใยบุ ต่อมาจึงได้ผลิตผ้าฝ้ายชึ้นใช้เอง ย้อมสีผ้าด้วยสีธรรมชาติ ส่วนใยบุก็เปลี่ยนมาใช้ผ้าฝ้าย และขนสัตว์จากธรรมชาติ
ในประเทศไทย งาน Quilts เริ่มที่ภาคเหนือโดยเฉพาะชาวไทยภูเขาซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากมิชชั่นนารี
ความหมาย
Patchwork คือการนำผ้าที่ตัดเป็นรูปทรงเรขาคณิตมาเย็บต่อกันเป็นลวดลายใหม่ แพทเทิร์นที่นิยมใช้คือทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ส่วนลายต่อผ้าที่นิยมต่อกันคือ Log cabin, Lemon star
Applique’ คือการตัดผ้าตามจินตนาการมาเย็บ สอย ปะ ลงบนผ้าอีกชิ้น
Quilting คือ การนำผ้า 3 ชิ้นมาวางซ้อนกัน และเย็บให้ติดกันทั้ง 3 ชิ้น การ Quilt ทำให้เกิดลายนูนขึ้นมา สามารถทำได้ด้วยมือและจักรเย็บผ้า ผ้า 3 ชิ้นประกอบด้วย
ชั้นบน Top คือผ้าที่เย็บประกอบเป็นลวดลายต่างๆ
ชั้นกลาง Batting คือใยบุ
ช้นล่าง Backing คือผ้าที่ใช้รองด้านล่างของใย
รู้จักความหมายคร่าวๆ ของ Patchwork Quilt กันไปแล้ว คราวหน้าเรามารู้จักอุปกรณ์สำหรับงาน Quilt กันเถอะ
อ่านไป ยิ้มไป ไม่ใช้เราคนเดียวที่รักงานผ้าพวกนี้ ขอบคุณความรู้ใหม่ๆนะค่ะ
ตอบลบอยากให้สอนการต่อผ้าค่ะ
ตอบลบ