วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Advance Sampler Quilt

Sampler Quilt ผืนนี้เป็นผืนที่สองและผืนสุดท้ายของการเรียน JHIA เป็นการรวมเอาแต่ละ Block ใน Course Advance มาไว้บนผืนเดียวกัน Pattern ที่ต้องต่อในแต่ละ Block ของ Course นี้ ก็มีความยากขึ้นตามลำดับ และเมื่อนำมาต่อรวมกันเป็นผืน ก็น่าจะต้องออกแบบให้ Border มีรายละเอียดมากกว่าผืนแรกด้วย งานชิ้นใหญ่ชิ้นสุดท้ายนี้ จะเป็นตัวตัดสินว่าเรียนจบแล้วจะได้รับใบ Certificate หรือเปล่า เพราะแม้จะทำการบ้านในบทเรียนที่ผ่านมาเสร็จหมดทุกชิ้น แต่ถ้าทำ Sampler Quilt ผืนนี้ไม่เสร็จ ก็เป็นอันว่าหมดสิทธิ์ (ที่จริงก็ต้องทำ Sampler Quilt ผืนแรกเสร็จด้วยนะ)  แม้จะทำผ้าผืนแรกสำเร็จ และคิดว่าผืนที่สองก็ไม่น่าจะยาก แต่ก็ยังมีปัญหาจุ๊กจิ๊กมาทดสอบเราเสมอ ต่อผ้าแล้วไม่สวยไม่ถูกใจ เลาะทำใหม่หรือไปต่อดี อยากให้ดอกไม้มีกลีบบางๆ เหมือนของจริง แต่ไม่มีใยโพลีฯ อย่างที่ว่าจะแก้ปัญหายังไงดี ในขณะที่อารมณ์ขณะทำงานก็ยังคล้ายๆ ตอนทำผ้าผืนแรก แม้จะมีช่วงเวลาฮึกเหิม มุ่งมั่น แต่ก็มีช่วงเวลาขี้เกียจและต๊อแต๊ ไม่นับอุปสรรคเรื่องเวลาที่น้อยลงของตัวเองที่ทำให้ไม่สามารถเย็บผ้าได้แบบชิลชิลเหมือนที่เคย แต่เราก็ยังค่อยๆ ทำมันไปเรื่อยๆ เย็บและ Quilt ไปเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าหมายว่าก่อนการเรียนครั้งสุดท้ายผ้าผืนนี้ต้องได้เอาขึ้นแขวนบนผนังห้องเสียที วันที่ทำปมตัดด้ายเส้นสุดท้าย ความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก มันทั้งโล่งและสุขใจ เราได้เอาชนะความยากลำบากมาได้อีกครั้งนึงแล้ว 
ขอยืมคำพูดของคุณภาณุมาศ ทองธนากุล หรือ ใบพัด นักเขียนเจ้าของหนังสือการวางแผนชีวิตอย่าง 'การลาออกครั้งสุดท้าย' มาใช้ในการนี้

"วันใดที่คุณมีความฝันคุณรอให้มันปรากฏตัวอย่างเดียวไม่ได้
ความฝันก็รอคุณเหมือนกันว่าจะมีวินัยในการทำเพื่อมันขนาดไหน"
 
วันนี้ความฝันของอิ๋มเป็นจริงแล้ว


 

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Basic Sampler Quilt

เนื้อหาหลักๆ ของการเรียนคอร์ส JHIA ก็คือการต่อผ้า Pattern ต่างๆ เริ่มตั้งแต่ผ้ารูปทรงเรขาคณิตง่ายๆ เช่นสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม แล้วค่อยๆ เพิ่มความยากมาต่อผ้าแนวโค้ง ตอนที่เรียน Course Basic ต้องหัดต่อผ้าทั้งหมด 22 Pattern แต่นำมาประกอบเป็น Sampler Quilt แค่ 20 Pattern ขั้นตอนการต่อผ้าที่ว่ายาก แต่การ Quilt ผ้าผืนโตขนาดนี้นับว่าสาหัสทีเดียว อิ๋มใช้เวลาอยู่กับ Sampler Quilt ผืนนี้รวม 1 ปี กับ 4 เดือน นับแต่วันแรกที่ไปเรียนต่อผ้ากับครู ใครที่อยากต่อผ้าห่มหรือผ้าโชว์ผืนใหญ่ๆดูบ้างอย่าเพิ่งตกใจว่าจะใช้เวลานานขนาดนั้น 
เพราะเวลาที่ใช้ทำงานจริงๆ แค่ประมาณสามถึงสี่เดือนเท่านั้นเอง จำได้ว่าทุกครั้งที่ต่อผ้าแต่ละ Block ชอบที่จะนับว่า Block นี้ตัดผ้ากี่ชิ้น และต้องจับมาประกบกันเพื่อเย็บต่อกี่ครั้งจะได้คำนวณได้ว่าวันนึงจะต่อผ้า Block นี้เสร็จหรือเปล่า ทำเสร็จแล้วก็ลืมๆ ไปไม่ได้คิดจะจำ จนถึงเวลา Quilt ผ้า ตอนที่นั่งทำไปเพลินๆ และหยุดพักมองดูงานที่ตัวเองทำ ก็นึกขึ้นมาว่าผ้าผืนโตนี้ใช้ผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยกี่ชิ้นกันหนอ แล้วมันถูกจับประกบ เย็บต่อกันกี่ครั้งกว่าจะได้มาเป็นงานผืนนี้ มีหลากหลายความรู้สึกเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ได้เย็บผ้า วันไหนที่ต่อผ้าได้แหลมเปี๊ยบก็ปลื้มปริ่มยิ้มในใจ แต่วันไหนที่ต่อไม่ตรง เคลื่อนไปซักนิด ก็ปลุกปลอบใจตัวเองว่ามันเป็นงานทำมือ ครั้งไหนที่ทำแล้วไม่ถูกใจทั้งบล๊อกก็ตัดใจโยนทิ้งเลือกผ้าใหม่ต่อใหม่ทั้งหมด ไม่นับช่วงต้นๆ ของการ Quilt ที่เพิ่งเริ่มหัดใช้สะดึงที่กว่าจะเริ่มตั้งเข็มให้ตั้งฉากกับผ้าแล้ว Quilt ได้ก็ปาเข้าไปครึ่งวัน ไหนจะต้อง Quilt ให้ถี่เท่าๆ กันอีก ก็ทำให้ทดท้ออยู่พักนึงทีเดียว แม้กระทั่งวันนี้ที่ทำเสร็จแล้วยังแอบไม่ชอบลาย Quilt บางลายบนผืน มองแล้วมองอีกว่าไม่น่าเลือกทำลายนี้ สุดท้ายก็เก็บไว้ไม่เลาะเพื่อเอาไว้เป็นบทเรียนเตือนใจว่าครั้งหน้าเลือกทำลายอื่นจะสวยกว่า ใครจะนึกว่าผ้าผืนนึงกับเวลาอันแสนยาวนาน จะก่อให้เกิดความรู้สึกทั้งสุขใจ และเหนื่อยใจ แต่ที่มากไปกว่านั้น ผ้าผืนนี้ได้ทำให้เรารู้จักสร้างวินัยในการทำงาน ยอมอดที่จะนอนกลิ้งตื่นสาย รีบตื่นเช้าเผื่อจะได้ต่อผ้าบ้างซักเล็กน้อย แม้มีธุระจะต้องไปไหนต่อไหน ก็พกผ้าไปหามุมเล็กๆ ต่อผ้าได้ทุกที่ มากกว่าความดีใจที่การบ้านเสร็จ คือความดีใจที่ตัวเองมีความอดทนมากพอที่ทำเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องธรรมดา ^^